อาหารรักษาสิว



อาหารสำหรับรักษาสิว

ด้วยฮอร์โมน และความเครียดจึงไม่แปลกใจที่วัยรุ่นส่วนใหญ่จะพบกับปัญหาสิวบนใบหน้า สิวเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนภายในร่างกาย ทำให้ต่อมไขมันผลิตไขมันออกมามากจนไม่สามารถถูกขับออกจากรุขุมขนได้หมด เกิดการอุดตันจนกลายเป็นสิวหัวขาวและหัวดำในที่สุด และอาจจะกลายเป็นสิวอักเสบและเป็นหนองได้หากติดเชื้อแบคทีเรีย

อาการ
สิวปกติจะมีลักษณะเป็นตุ่มใสเล็กๆ มีสีขาวและสีดำ และหากเป็นสิวอักเสบจะไม่มีอาการปวด แต่ถ้าเริ่มเป็นตุ่มหนองแล้วละก็จะเริ่มมีอาการบวมแดงและเจ็บตามมา

โภชนาการและการบำบัดตามธรรมชาติ

  • กินอาหารพวกแป้งที่ไม่ผ่านการขัดสี ผักผลไม้ และอาหารชนิดต่างๆให้ครบ 5 หมู่ 3 มื้อ
  • เน้นการกินผักผลไม้ที่มีเส้นใยอาหารสูง เพื่อขจัดของเสียออกจากร่างกาย ไม่ให้เกิดสิวอุดตัน
  • กินปลาอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
  • สมุนไพร เช่น กระเทียม หอมหัวใหญ่ หอมแดง ช่วยต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรีย ป้องกันการอักเสบของสิว
  • เลือกกินอาหาที่มีวิตามินเอ ซึ่งพบในน้ำมันตับปลา ตับ เนย นม ผักใบเขียว ผักผลไม้สีเหลือง เช่น แครอท มะม่วง มะละกอ ช่วยรักษาและป้องกันการเกิดสิว
  • เพิ่มการกินโปรตีนจากปลาและผัก
  • กินอาหารที่อุดมด้วยวิตามินซี ช่วยป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งทำให้สิวลุกลาม ส่วนวิตามินอีช่วยรักษาแผลเป็นที่เกิดจากสิว
  • คนผิวมันที่มีสิวมาก มักจะขาดธาตุสังกะสีที่มีอยู่ในอาหารทะเล หอยนางรม เนื้อสัตว์ ข้าวไม่ขัดสี และผักใบเขียว
  • ดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้วต่อวัน เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือด
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น ลดการเกิดสิว

วิตามินเสริม

  • ควรกินวิตามินเอ 5,000-8,000 ไอยุต่อวัน เพื่อลดการผลิตน้ำมันส่วนเกินของต่อมไขมัน และช่วยรักษาสิว (แพทย์เชื่อว่าคนที่เป็นสิวเกิดจาการขาดวิตามินเอ)
  • วิตามินอี กินวันละ 400 ไอยูต่อวัน ช่วยรักษาแผลที่เกิดจากสิว ทำให้ผิวเรียบเนียน
  • วิตามินซี ควรกิน 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน
  • สังกะสีควรกิน 45 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อรักษาแผลที่เกิดจากสิวให้ดีขึ้น ลดการผลิตไขมันส่วนเกิน

*หมายเหตุ* การกินวิตามินควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะอาจมีผลข้างเคียง

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง

  • ลดอาหารเค็มจัด ลดการบริโภคเกลือ
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงจากสัตว์ เพราะจะเพิ่มความมันให้แก่ผิวยิ่งขึ้น
  • ลดการกินอาหารจำพวกน้ำตาลขัดขาว ของหวาน เช่น ขนมเค้ก ช็อกโกแลต
  • ลดอาหารประเภทแป้งที่ผ่านกระบวนการขัดสี อาหารฟาสต์ฟู้ดและอาหารทอด
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ น้ำอัดลม
  • อาหารเผ็ดจัด ควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน

ข้อแนะนำ

  • กรดวิตามินเอ สตรีมีครรภ์ห้ามกิน
  • การล้างหน้าบ่อยเกินไป เป็นการกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น ควรล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็นก็เพียงพอ
  • ความเครียดจะเป็นตัวกระตุ้นในการผลิตฮอร์โมนเอนโดรเจน ซึ่งฮอร์โมนนี้จะไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน
  • อย่าแกะสิว เพราะทำให้สิวลุกลามและเกิดรอยแผลเป็น รวมทั้งควรหลีกเลี่ยงการใช้มือและผ้าที่ไม่สะอาดสัมผัสใบหน้า


Comments are closed.