เมื่อผิวหนังได้รับการกระทบกระเทือนจากปัจจัยภายนอก แล้วทำให้ผิวหนังภายนอกถูกทำลาย ก็จะกลายเป็นรอยแผลเป็น เนื่องจากเนื้อเยื่อ คอลลาเจน ถูกทำลาย ซึ่งโดยปกติแล้วผิวหนังจะสามารถรักษามันเองได้ หากไม่มีการติดเชื้อที่บริเวณแผลบนผิวหนัง และจะค่อยๆหายเป็นปกติ แต่จะยังคงทิ้งร่องรอยแผลเป็นไว้ ขึ้นอยู่กับขนาดของแผล
โภชนาการและการบำบัดตามธรรมชาติ
- เมื่อมีแผลไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็กหรือใหญ่ ควรกินอาหารที่มีประโยชน์ให้มากขึ้น เน้นผัก ผลไม้ และอาหารที่มีกากใย จะช่วยให้แผลหายไวยิ่งขึ้น
- กินอาหารที่อุดมด้วยวิตามินซี เช่น มะเขือเทศ มะนาว กะหล่ำปลี คะน้า กีวี สับปะรด ส้ม ซึ่งจะช่วยรักษาแผลจากการผ่าตัด แผลไฟไหม้ และแผลต่างๆให้หายไวขึ้น
- เนื้อไก่ เนื้อสัตว์ต่างๆ เครื่องในสัตว์ ธัญพืช ถั่ว ผักใบเขียวช่วยทำให้แผลหายเร็ว
- ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินอีทาบางๆ บริเวณที่เกิดแผลใหม่ จะช่วยทำให้ผิวสมานกันได้ดีขึ้น หรือจะรักษาจากภายในด้วยการกินอาหาร เช่น น้ำมันเมล็ดทานตะวัน น้ำมันมะกอก น้ำมันถั่วเหลือง ผักใบเขียว ผักโขม ซีเรียล ถั่วลิสง วอลนัต เป็นต้น
- เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว หอยนางรม อาหารทะเล ผักใบเขียว มะเขือเทศ มีแร่สังกะสีอยู่มาก ช่วยรักษาแผลทั้งภายในและภายนอก
- กินอาหาที่มีวิตามินอี เพื่อรักษาผิวหนังที่ถูกทำลาย ผลัดเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน และป้องกันการติดเชื้อ
- กระเทียม กะหล่ำปลี ปลา ไข่ มีแร่ซัลเฟอร์หรือกำมะถัน ช่วยลดอาการอักเสบของแผลที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย
- ดื่มน้ำว่านหางจระเข้ เพื่อช่วยรักษาแผลให้ดีขึ้น หรือจะใช้วุ้นว่านหางจระเข้ทาบางๆบริเวณแผล
วิตามินเสริม
- วิตามินซี ควรกินวันละ 500 มิลลิกรัมต่อวัน มีความจำเป็นต่อการสร้างคอลลาเจน และช่วยรักษาบาดแผลให้หายเร็วยิ่งขึ้น
- วิตามินอี ควรกินวันละ 1,000-1,200 ไอยูต่อวัน ช่วยลดอาการอักเสบและรักษาบาดแผลที่หนาให้นุ่มและบางลงได้
- สังกะสี 15-20 มิลลิกรัมต่อวัน (จนกว่าแผลจะหายดี) ช่วยรักษาแผลที่เกิดจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แผลผุพอง และช่วยรักษาแผลที่เกิดภายใน
*หมายเหตุ* การกินวิตามินควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะอาจมีผลข้างเคียง
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
- ห้ามดื่มน้ำแร่ เนื่องจากน้ำแร่จะทำลายและต้านฤทธิ์ของวิตามินซีและวิตามินอี ซึ่งช่วยรักษาและบรรเทาอาหารอักเสบของบาดแผล
- หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่ผ่านกระบวนการการปรุงแต่ง อาหารผสมสี อาหารใส่ผงชูรส และอาหารฟาสต์ฟู้ด
- ห้ามดื่มแอลกอฮอล์หากมีแผลติดเชื้อ หรือแผลขนาดใหญ่
- ลดการกินอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว
ข้อแนะนำ
- ระวังอย่าให้แผลติดเชื้อ
- วิตามิน ควรกินในระยะหนึ่งจนกว่าแผลจะหายดี หรือกินอาหาร เพื่อให้ได้รับวิตามินโดยตรง
- งดการสูบบุหรี่