ความเหน็ดเหนื่อย อ่อนแรง อ่อนเพลีย เป็นอาการที่ใครก็เป็นได้ ไม่ว่าจะปกติหรือเป็นผู้ป่วย เนื่องจากความเครียด การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ กินอาหารจำพวกแป้งที่ขัดสีและเนื้อสัตว์มากจนเกินพอดี ขาดกาออกกำลังกาย และเกิดจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เมื่อเราเริ่มมีความเครียดเข้าแล้วก็ทำให้เกิดความเหนื่อยล้า แต่จะเป็นเพียงช่วงสั้นๆ เมื่อความเครียดหายไปก็ทำให้กลับมามีกำลังเหมือนเดิม แต่ในบางรายอาจจะมีอาการเหนื่อยล้าต่อเนื่อง และอาจจะเรื้อรัง ซึ่งเป็นผลมาจากอาการป่วย หรือการกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ เป็นผลเสียต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ทั้งนี้อาการที่เกิดขึ้นสามารถที่จะรักษาให้หายได้ ด้วยการออกกำลังกาย และกินอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ
โภชนาการและการบำบัดแบบธรรมชาติ
- กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพให้ครบ 5 หมู่ 3 มื้อ เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามิน แร่ธาตุที่จำเป็น
- เพิ่มการกินวิตามินบีรวมให้มากขึ้น โดยเฉพาะกรดโฟลิก วิตามินบี 12 เพื่อช่วยให้เซลล์เพิ่มการผลิตพลังงาน
- ผู้ที่เหนื่อยง่าย เฉื่อยชา ควรกินวิตามินบี 2 ที่พบได้ในตับ เนื้อสัตว์ ไข่แดง นม โยเกิร์ต เนยแข็ง ถั่ว ปลา ช่วยทำให้มีกำลัง กระตุ้นร่างกายให้กระฉับกระเฉง
- กินโปรตีนที่ได้จากปลาและผักแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์
- เลือกกินอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เพื่อป้องกันระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ
- อาหารที่มีโพแทสเซียม เช่น กล้วย มันฝรั่ง เมล็ดดอกทานตะวัน มะเขือเทศ แคนตาลูป ส้ม มะม่วง มะละกอ ช่วยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ ป้องกันอาการอ่อนเพลียและกล้ามเนื้อประสาทเสื่อม
- เน้นการกินผักผลไม้สดและคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนให้มากขึ้น ช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าขึ้น
- ธาตุเหล็กช่วยเพิ่มความคล่องตัว กระฉับกระเฉงและพละกำลัง เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเรี่ยวแรง และผู้ป่วยหลังพักฟื้นจากการผ่าตัด
วิตามินเสริม
- วิตามินอี 600-800 ไอยูต่อวัน ช่วยทำให้หลอดเลือดไม่แข็งตัว ร่างกายได้รับออกซิเจนมากขึ้น จึงเป็นผลให้กล้ามเนื้อมีกำลัง
- สังกะสี ควรกิน 40-50 มิลลิกรัมต่อวัน ช่วยในการเผาผลาญพลังงานให้ร่างกายนำสารอาหารไปใช้ให้เป็นประโยชน์
- โคเอนไซม์คิวเทน ควรกิน 100-300 มิลลิกรัมต่อวัน ช่วยลดความเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ทำให้ร่างกายมีกำลังเพิ่มขึ้น
*หมายเหตุ* การกินวิตามินควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะอาจมีผลข้างเคียง
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
- หลีกเลี่ยงจำพวกแป้งขัดสี อาหารที่ผ่านกระบวนการขัดสี
- ลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ลง เพราะยิ่งทำให้เพิ่มความเหนื่อยล้ามากขึ้น
- ลดการกินอาหารไขมันสูง ไขมันอิ่มตัวทั้งจากสัตว์และพืช
- หลีกเลี่ยงอาหารที่ผสมน้ำตาล อาหารให้ความหวาน
ข้อแนะนำ
- ความเหนื่อยล้าอ่อนแรง อาจมีสาเหตุจากการกินอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ ไขมัน และอาหารที่ผ่านการปรุงแต่งมากเกินไป ควรลดปริมาณอาหารพวกนี้ลงไป
- เครื่องดื่มกาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ และน้ำอัดลม ทำให้บรรเทาความเหนื่อยล้าได้ชั่วขณะเท่านั้น ควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม
- ความเครียด สามารถทำให้ร่างกายไร้เรี่ยวแรงหมดกำลัง จึงควรหาวิธีคลายเครียดด้วยการออกกำลังกาย เล่นกีฬา