อาหารแก้ผิวไหม้



อาหารแก้ผิวไหม้

ผิวหนังเมื่อได้รับรังสีอัลตราไวโอเลตมากเกินไป หรือเป็นเวลานาน จะทำให้ผิวหนังไหม้ ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับผู้ที่ต้องอยู่กลางแสงแดดเป็นเวลานาน เช่น คนทำสวน นักกีฬา ผู้ที่ชอบอาบแดด เป็นต้น ผู้ที่เกิดอาการผิวไหม้จากแสงแดด อาจจะไม่ได้ป้องกันผิวจากแสงแดด จึงทำให้ผิวไหม้ได้ และมักเกิดกับผู้ที่มีผิวขาวมากกว่าผิวคล้ำ ควรจะทาครีมกันแดด สวมหมวก สวมแว่นตากันแดด

อาการผิวหนังไหม้เนื่องจากแสงแดด ส่วนใหญ่มักจะมีอาการดังนี้

  • ผิวบริเวณที่ถูกแสงแดดไหม้นั้น หากจับจะรู้สึกอุ่นและนิ่ม
  • ระยะต่อมาผิวหนังจะเริ่มแดงระเรื่อและแสบร้อน
  • มีอาการไหม้ คัน และผิวลอกบริเวณผิวหนังที่เกิดการไหม้ ทั้งบริเวณตา ปาก และผิวหนัง
  • บางรายอาจมีการวิงเวียน หน้ามืด ผิวหนังพุพอง และเป็นไข้
  • การไหม้ของผิวหนัง อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังตามมาได้

โภชนาการและการบำบัดแบบธรรมชาติ

  • เลือกบริโภคผักที่มีสีเหลือง เช่น แครอท มะม่วง ผักใบเขียวที่มีสารเบต้าแคโรทีน เพื่อป้องกันการทำลายผิวจากแสงแดด
  • กินผลไม้ที่มีน้ำมาก เช่น แตงโม แอปเปิล องุ่น มะเขือเทศ เบอร์รี่ ส้ม ช่วยลดอาการไหม้และช่วยสร้างคอลลาเจนให้แก่ผิว
  • ดื่มน้ำว่านหางจระเข้ หรือใช้วุ้นของว่านหางจระเข้ทาบริเวณรอยไหม้ เพื่อบรรเทาอาการไหม้ของผิว
  • กินอาหารที่อุดมด้วยวิตามินเอ เพื่อช่วยการสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อของเซลล์ผิว
  • อาหารจำพวก ไก่ เป็ด ปลา เมล็ดถั่ว ธัญพืช เป็นอาหารที่อุดมด้วยวิตามินบี ช่วยซ่อมแซมผิวหนังที่เสียหายได้ดีเช่นกัน
  • หลังจากที่ผิวไหม้ควรใช้น้ำเย็นประคบ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง และหลีกเลี่ยงแสงแดดจากที่ผิวไหม้
  • ดื่มน้ำสะอาดวันละ 8-10 แก้ว เพื่อให้ผิวหนังชุ่มชื้นตลอดเวลา
  • กินอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่ และรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง

วิตามินเสริม

  • วิตามินเอ ควรกินวันละ 8,000-10,000 ไอยู เพื่อรักษาอาการไหม้ของผิว และป้องกันการก่อตัวของมะเร็งผิวหนัง
  • เบต้าแคโรทีน มีคุณสมบัติช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง ควรเลือกกิน 50,000-100,000 ไอยูต่อวัน
  • วิตามินซี ควรกิน 1-2 กรัมต่อวัน เพื่อช่วยรักษาโครงสร้างคอลลาเจนให้แก่ผิว
  • วิตามินอี ช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื้นตลอดเวลา ป้องกันการถูกทำลายของผิว ควรกินวันละ 400 ไอยูต่อวัน

*หมายเหตุ* การกินวิตามินควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะอาจมีผลข้างเคียง

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง

  • ลดการดื่มชา กาแฟ แอลกอฮอล์ เพื่อช่วยให้เซลล์ผิวหนังซ่อมแซมตัวเองได้ดีขึ้น
  • หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง อาหารปิ้งย่างไหม้ๆ อาหารประเภทบาบีคิว เพื่อลดความเสี่ยงต่อการก่อตัวของอนุมูลอิสะ

ข้อแนะนำ

  • ลดการสูบบุหรี่เพราะจะทำให้สภาพผิวหนังแย่ลง
  • ไม่ควรตากแดดในช่วงระหว่างเวลา 10 โมงเช้า ถึง บ่าย 4 โมงเย็นเย็น เนื่องจากแสงอัลตราไวโอเลตรุนแรง
  • หลังจากที่ผิวไหม้จากแสงแดด ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดไม่ให้ถูกผิวบริเวณดังกล่าว และไม่ควรใช้พลาสเตอร์ยาปิดแผล
  • ทาครีมกันแดดทุกครั้งเมื่อต้องออกแสงแดดกลางแจ้ง
  • หากมีอาการแทรกซ้อน เช่น ปวดศีรษะ วิงเวียน อาเจียน เป็นไข้ ควรพบแพทย์


Comments are closed.